อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น
ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคกอำเภอบ้านโคกตำบลห้วยมุ่นอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ตำบลบ่อภาคอำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก
เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย
การเดินทางไปภูสอยดาว
โดยรถยนต์
จากจังหวัดพิษณุโลก ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร
จากจังหวัดอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร
จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร
โดยรถประจำทาง
1.เริ่มจากการเดินทางจากกรุงเทพที่สถานีขนส่งหมอชิตซื้อตั๋วไปลงที่จังหวัดพิษณุโลกราคาเริ่มต้นประมาณ
300 กว่าบาท (การเดินทางมาที่ จ.พิษณุโลก
ดูจะสะดวกกว่าและนักเดินทางนิยมใช้เส้นทางนี้)ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
2.ควรกะเวลาให้พอดีมาถึงที่นี่ประมาณตี 5
ให้ทันรถประจำทางไปอ.ชาติตระการเที่ยวแรก ราคาประมาณ 80 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
(หรือจะใช้บริการเหารรถแท็กซี่หรือสองแถวที่ขนส่งให้ไปส่งที่ถูสอยดาวเลยก็ได้มีบริการประมาณ
2500 บาทต่อเที่ยว ไม่รอรับกลับ
ถ้าให้มารับกลับต้องคุยราคากับเขาดูน่าจะแพงมากเพราะเขาต้องตีไปตีกลับหลายเที่ยว
3.เมื่อไปถึงอ.ชาติตระการก็ต่อวินมอเตอร์ไซต์ไปลงที่ตลาด
อยู่ไม่ไกลนัก ประมาณ 20 บาท
หาไรกินลองทองที่ตลาดรอรถสองแถว
4.จากนั้นรอรถสองแถวสีส้มจะออกจากตลาดชาติตระการ
10.30 กับ 12.30
เท่านั้นในแต่ล่ะวัน(อาจมีการคลาดเคลื่อน)และต้องสอบถามก่อนว่าเวลาไหนจะผ่านไปภูสอยดาวบางที
10.30 อาจจะไม่ผ่าน ก็ต้องนั่ง 12.30 ไปถ้าเวลา 10.30 ผ่านก็ไปถึงเกือบบ่าย 2
ก็ยังพอขึ้นภูสอยดาวทัน(แต่ฝีท้าวต้องขั้นโปร) เวลา 12.30
ก็ถัดไปอีกถ้าเดินไวก็ยังขึ้นได้ ราคาคนละ 100 บาท
5.
ส่วนคนที่เดินทางโดยรถสองแถวจะมีปัญหาตอนขากลับ คือบางวันอาจไม่มีรถสองแถว
หรือมีแต่เราอาจจะลงมาไม่ทัน
ถ้าไม่มีรถขากลับหรืออาจจะลองนัดหมายกับคนขับดูตกลงเรื่องราคาและวันกลับให้ดี
ไม่งั้นอาจต้องนอนต่อข้างล่างอีกคืน อิอิ
หรือมีอีกวิธีที่คือขอติดรถคนอื่นมาลงที่อ.ชาติตระการ
หรือบางทีอาจจะโชคดีเค้ามาที่ตัวเมืองพิษณุโลก วิธีนี้จะใช้ได้ผลก็ต้องมี
สมาชิกประมาณ 1-3 คน ดูจะง่ายในการขอเค้าติดรถ
***รถโดยสารชาติตระการ-พิษณุโลก
ช่วงบ่ายมีน้อยกว่าช่วงเช้า โดยจะมี 14.00 กับ 17.00 (น่าจะทันเที่ยว 5 โมงเย็น)
โดยรถไฟ
1.ซื้อตั๋วรถไฟไปพิษณุโลกที่สถานีรถไฟหัวลำโพง
รอบประมาณ20.55 ถึงพิษณุโลก 05.23 ราคา 179 รถเร็วขบวน 115
(หรืออาจจะนั่งรถธรรมดาขบวน 201 เวลา 09.25 ถึงพิษณุโลก 17.50 รถฟรี
ไปนอนที่พิษณุโลกก่อนหนึ่งคืน)
2.นั่งรถสามล้อ
หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปลงที่สถานีขนส่งเพื่อต่อรถไปอ.ชาติตระการ
จุดเด่นที่น่าสนใจและควรไปช่วงไหน?
จุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว
คือ การได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า"ดอกหงอนนาค"
และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน
ส.ค. - ก.ย ของทุกปี
ทุ่งดอกไม้ป่าบริเวณลานสน
เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 7 ชั้น
ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร
สภาพป่าโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมากจึงมีมอสส์สีเขียว
ขึ้นปกคลุมทั่วไปตามก้อนหินริมน้ำ สามารถเดินทางได้จากลานสน
ทางลาดชันใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาที
แนะนำที่พักและอาหาร
กางเต็นท์บนยอดลานสน
บริเวณที่ตั้งแค้มป์ทุ่งโนนสน
จะอยู่บริเวณเกาะกลางที่เป็นป่าสน อยู่ใกล้กับลำห้วยเล็กๆ มีห้องน้ำบริการ
(แต่ตักน้ำเองจากลำห้วยเล็กๆ) ควรเตรียมเสบียงอาหารไปให้เพียงพอ
(ในช่วงเทศกาลจะมีของขายอยู่บ้าง)
อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว
การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
ยามเย็นยิ่งสวยมาก
อาหารจะทำกินเอง
สิ่งที่ประทับใจคือ ความเป็นธรรมชาติที่มีความอุดมสมบุรณ์และร่ายล้อมไปด้วยหุบเขาและหมอกปกครุมอยู่รอบๆป่าและการที่มีมิตรภาพที่ดีไปด้วยและในการเดินทางในครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความเป็นมิตรภาพที่ดีอีกด้วย...........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น