วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศในประเทศไทย

ภูสอยดาวตั้งอยู่ที่ไหน?

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ท้องที่ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคกอำเภอบ้านโคกตำบลห้วยมุ่นอำเภอน้ำปาดจังหวัดอุตรดิตถ์ตำบลบ่อภาคอำเภอชาติตระการจังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย

การเดินทางไปภูสอยดาว

โดยรถยนต์

จากจังหวัดพิษณุโลก ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1246 ถึงบ้านแพะแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1143 ผ่านอำเภอชาติตระการ แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1237 ผ่านบ้านบ่อภาคไปบรรจบกับเส้นทางแผ่นดินหมายเลข 1268 ถึงน้ำตกภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมระยะทางประมาณ 188 กิโลเมตร
จากจังหวัดอุตรดิตถ์ใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1047 (อุตรดิตถ์-น้ำปาด) จนถึงอำเภอน้ำปาดแล้วเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1239 ไปอีก 47 กิโลเมตร จึงเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1268 ไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ รวมระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร

โดยรถประจำทาง 


1.เริ่มจากการเดินทางจากกรุงเทพที่สถานีขนส่งหมอชิตซื้อตั๋วไปลงที่จังหวัดพิษณุโลกราคาเริ่มต้นประมาณ 300 กว่าบาท (การเดินทางมาที่  จ.พิษณุโลก ดูจะสะดวกกว่าและนักเดินทางนิยมใช้เส้นทางนี้)ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
2.ควรกะเวลาให้พอดีมาถึงที่นี่ประมาณตี 5 ให้ทันรถประจำทางไปอ.ชาติตระการเที่ยวแรก ราคาประมาณ 80 บาท ใช้เวลาประมาณ  3 ชั่วโมง  (หรือจะใช้บริการเหารรถแท็กซี่หรือสองแถวที่ขนส่งให้ไปส่งที่ถูสอยดาวเลยก็ได้มีบริการประมาณ 2500 บาทต่อเที่ยว ไม่รอรับกลับ ถ้าให้มารับกลับต้องคุยราคากับเขาดูน่าจะแพงมากเพราะเขาต้องตีไปตีกลับหลายเที่ยว
3.เมื่อไปถึงอ.ชาติตระการก็ต่อวินมอเตอร์ไซต์ไปลงที่ตลาด อยู่ไม่ไกลนัก  ประมาณ 20 บาท หาไรกินลองทองที่ตลาดรอรถสองแถว
4.จากนั้นรอรถสองแถวสีส้มจะออกจากตลาดชาติตระการ 10.30 กับ 12.30 เท่านั้นในแต่ล่ะวัน(อาจมีการคลาดเคลื่อน)และต้องสอบถามก่อนว่าเวลาไหนจะผ่านไปภูสอยดาวบางที 10.30 อาจจะไม่ผ่าน ก็ต้องนั่ง 12.30 ไปถ้าเวลา 10.30 ผ่านก็ไปถึงเกือบบ่าย 2 ก็ยังพอขึ้นภูสอยดาวทัน(แต่ฝีท้าวต้องขั้นโปร) เวลา 12.30 ก็ถัดไปอีกถ้าเดินไวก็ยังขึ้นได้ ราคาคนละ 100 บาท
5. ส่วนคนที่เดินทางโดยรถสองแถวจะมีปัญหาตอนขากลับ คือบางวันอาจไม่มีรถสองแถว หรือมีแต่เราอาจจะลงมาไม่ทัน ถ้าไม่มีรถขากลับหรืออาจจะลองนัดหมายกับคนขับดูตกลงเรื่องราคาและวันกลับให้ดี ไม่งั้นอาจต้องนอนต่อข้างล่างอีกคืน อิอิ หรือมีอีกวิธีที่คือขอติดรถคนอื่นมาลงที่อ.ชาติตระการ หรือบางทีอาจจะโชคดีเค้ามาที่ตัวเมืองพิษณุโลก วิธีนี้จะใช้ได้ผลก็ต้องมี สมาชิกประมาณ 1-3 คน ดูจะง่ายในการขอเค้าติดรถ

***รถโดยสารชาติตระการ-พิษณุโลก ช่วงบ่ายมีน้อยกว่าช่วงเช้า โดยจะมี 14.00 กับ 17.00 (น่าจะทันเที่ยว 5 โมงเย็น)

โดยรถไฟ

1.ซื้อตั๋วรถไฟไปพิษณุโลกที่สถานีรถไฟหัวลำโพง รอบประมาณ20.55 ถึงพิษณุโลก 05.23 ราคา 179 รถเร็วขบวน 115 (หรืออาจจะนั่งรถธรรมดาขบวน 201 เวลา 09.25 ถึงพิษณุโลก 17.50 รถฟรี ไปนอนที่พิษณุโลกก่อนหนึ่งคืน)    
2.นั่งรถสามล้อ หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปลงที่สถานีขนส่งเพื่อต่อรถไปอ.ชาติตระการ 


จุดเด่นที่น่าสนใจและควรไปช่วงไหน?


จุดเด่นที่น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยว คือ การได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่เรียกว่า"ดอกหงอนนาค" และดอกไม้หลากสีสันสลับให้เห็นอยู่ทั่วลานสน ซึ่งจะบานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย ของทุกปี


ทุ่งดอกไม้ป่าบริเวณลานสน








                                                            น้ำตกสายทิพย์
เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มี 7 ชั้น ความสูงแต่ละชั้นประมาณ 5-10 เมตร สภาพป่าโดยรอบน้ำตกมีความชุ่มชื้นมากจึงมีมอสส์สีเขียว ขึ้นปกคลุมทั่วไปตามก้อนหินริมน้ำ สามารถเดินทางได้จากลานสน ทางลาดชันใช้เวลาเดินประมาณ 10-20 นาที





                                              เนินมรณะ ชันสูงที่สุดแต่วิวสวยมาก





แนะนำที่พักและอาหาร


กางเต็นท์บนยอดลานสน
บริเวณที่ตั้งแค้มป์ทุ่งโนนสน จะอยู่บริเวณเกาะกลางที่เป็นป่าสน อยู่ใกล้กับลำห้วยเล็กๆ มีห้องน้ำบริการ (แต่ตักน้ำเองจากลำห้วยเล็กๆ) ควรเตรียมเสบียงอาหารไปให้เพียงพอ (ในช่วงเทศกาลจะมีของขายอยู่บ้าง) อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง



ยามเย็นยิ่งสวยมาก

อาหารจะทำกินเอง





สิ่งที่ประทับใจคือ ความเป็นธรรมชาติที่มีความอุดมสมบุรณ์และร่ายล้อมไปด้วยหุบเขาและหมอกปกครุมอยู่รอบๆป่าและการที่มีมิตรภาพที่ดีไปด้วยและในการเดินทางในครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความเป็นมิตรภาพที่ดีอีกด้วย...........





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น